เตรียมลูกสู่อนาคตผ่านสูตร 3Rs + 8Cs + 2Ls

Ponggun
2 min readJun 29, 2019

--

สวัสดีผู้อ่านทุกท่านน่ะครับ วันนี้ผมมีโอกาสได้เข้าร่วมฟังบรรยายในหัวข้อ

เตรียมลูก สู่อนาคต โดย Think Academy

ตัวผมเองตอนนี้มีลูกชายอายุ 5 ขวบแล้วครับ ผมกำลังค้นหาแนวทางการศึกษาที่ช่วยเพิ่มความสามารถรอบตัวให้กับลูกชาย เพื่อที่ในอนาคตเขาจะได้มีโอกาสและทางเลือกในการดำเนินชีวิตที่หลากหลาย ได้ค้นหาตัวเอง และได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบในการดำเนินชีวิตครับ

ซึ่งหัวข้อบรรยายของทาง Think Academy ตรงกับสิ่งที่ผมกำลังสนใจมากๆจึงเป็นที่มาของบทความนี้ครับ

สถานที่

ก่อนที่จะเริ่มต้นบทความ ผมอยากขอแนะนำ Focus Arena จังหวัดขอนแก่น สถานที่จัดงานในการบรรยายครั้งนี้ ซึ่งมีความแปลกใหม่ โดยเน้นงานทางด้าน E-Sport โดยเฉพาะครับ สถานที่กว้างขวาง ภายในตกแต่งสวย มีร้านกาแฟและห้องพักไว้เข้า Camp ด้วยครับ

http://www.focusarena.co

เปิดงาน

เริ่มเปิดงานโดยคุณ อภิชัย เรืองศิริปิยะกูล โปรแกรมเมอร์ และผู้พัฒนา Application แบบ Augmented Reality (AR) ซึ่งมีผลงานที่ผ่านมามากมายครับ

คุณอภิชัย ตั้งใจที่จะพัฒนา Smart People ผ่านทาง Think Academy เพื่อรองรับการเป็น Smart City ของจังหวัดขอนแก่นครับ

คุณอภิชัยสื่อให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในอดีต และ ปัจจุบัน ว่ามีความแตกต่างกันค่อนข้างมาก แนวทางที่เคยมองว่าดีแล้วในอดีต อาจจะไม่เหมือนเดิมแล้วในปัจจุบัน

ยกตัวอย่างเช่น การฟังเพลงที่สมัยก่อนเรายังต้องฟังเพลงกันผ่านแผ่น CD แต่ในทุกวันนี้เราสามารถฟังเพลงกันผ่าน Application ต่างๆเช่น Spotify ซึ่งเข้าถึงและใช้งานง่าย ไม่จำเป็นต้องไปร้านดนตรีเพื่อที่จะซื้อแผ่น CD เพลงมาฟัง

ผู้ปกครองจึงไม่ควรที่จะนำแนวคิดจากสิ่งแวดล้อมที่เราพบในสมัยอดีต มาใช้พิจารณากับลูกๆของเราในปัจจุบันครับ แต่ควรรับฟังเหตุผลของลูกถึงการการตัดสินใจ และสนับสนุนเขามากกว่า

ในอดีต, Computer และ Internet คือสิ่งที่เข้ามาเปลี่ยนรูปแบบการทำงานให้เปลี่ยนไป

ในปัจจุบัน, ม.ขอนแก่นกำลังทดลองระบบ 5G ซึ่งจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอื่นๆตามมา ซึ่งก่อให้เกิดแรงกระเพื่อมและอาชีพใหม่ๆ

สูตร 3 Rs + 8 Cs + 2 Ls

คุณอภิชัย แนะนำแนวทางการพัฒนาเด็กๆด้วยวิธี

3 Rs + 8 Cs + 2 Ls

3 Rs

  • Reading (ทักษะการอ่าน)
  • (W)Riting (ทักษะการเขียน)
  • (A)Rithmetics (ทักษะการคำนวน)

8 Cs

  • Critical Thinking & Problem Solving (ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา)
  • Creativity & Innovation (ทักษะด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม)
  • Collaboration, Teamwork & Leadership (ทักษะด้านความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ)
  • Cross-cultural Understanding (ทักษะด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรม ต่างกระบวนทัศน์)
  • Communications, Information & Media Literacy (ทักษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศ และรู้เท่าทันสื่อ)
  • Computing & Media literacy (ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร)
  • Career & Learning Self-reliance (ทักษะอาชีพ และทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง)
  • Change (ทักษะด้านการรับมือปรับตัวรองรับความเปลี่ยนแปลง)

2 Ls

  • Learning Skills (ทักษะการเรียนรู้)
  • Leadership (ภาวะผู้นำ)

ความสำคัญของการเขียนโปรแกรมต่อเด็ก

การเขียนโปรแกรมสามารถเข้ามาช่วยให้เด็กมีการคิดที่เป็นระบบ รู้จักวิธีแก้ไขปัญหา และสามารถต่อยอดไปยังทักษะอื่นๆข้างต้นได้อีกครับ

รวมถึงการเขียนโปรแกรมยังบังคับให้ต้องพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เรียนที่จะรู้จักสิ่งใหม่ๆที่ช่วยให้การทำงานง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น ก็จะทำให้เด็กได้เรียนรู้ที่จะปรับตัวกับสิ่งใหม่ๆอยู่เสมอครับ

บางท่านอาจจะเคยเห็นข่าวที่ประเทศญี่ปุ่นประกาศนโยบายให้วิชาโปรแกรมมิ่ง กลายเป็นวิชามาตรฐานของเด็กนักเรียนชั้นประถม (เริ่มที่ ป.5) โดยจะมีผลบังคับใช้ในเดือนเมษายน 2020 ก็ยิ่งช่วยย้ำเตือนให้เห็นว่าเป็นอีก 1 ทักษะที่จำเป็นในอนาคตครับ

ในตอนท้ายคุณอภิชัยได้แสดงแบบแปลนของ Think Academy ให้เห็นซึ่งจะเป็นพื้นที่พัฒนาทักษะทางด้านการเขียนโปรแกรมและเทคโนโลยีต่างๆให้กับเด็กๆ ครับ

ท่านใดสนใจในรายละเอียดเพิ่มเติมของ Think Academy ดูรายละเอียดได้ข้างล่างนี้น่ะครับ

สรุป

ในฐานะที่ผมเป็นโปรแกรมเมอร์ที่ประจำอยู่ขอนแก่น ผมดีใจที่จังหวัดขอนแก่นมีกลุ่มคนไฟแรงจัดกิจกรรมทางด้านเทคโนโลยีและการเขียนโปรแกรมอยู่เป็นประจำ ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้ช่วยสนับสนุนการพัฒนาคนทั้งเด็กและผู้ใหญ่ และในอนาคตก็จะเป็นการพัฒนาเมืองตามไปด้วย

ส่วนตัวผมก็จะพยายามพัฒนาสังคมของนักเขียนโปรแกรม ด้วยบทความต่างๆที่คิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับผู้อ่านทุกท่านน่ะครับ

ขอบคุณมากๆครับ

นายป้องกัน

--

--

Ponggun

Development Manager, Web Developer with ASP.Net, ASP.net Core, Azure and Microsoft Technologies